Dead Space Remake ร่างใหม่ของเกมสยองคลาสสิก

Dead Space Remake

หลังจากอดอยากและปากแห้งมานานหลายปี ในที่สุด ยุคทองของแฟนหนังสยองขวัญก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง นับตั้งแต่การกลับมาของซีรีส์ Resident Evil การมาถึงของเกม The Callisto Protocol เมื่อปีที่แล้ว (ถึงแม้รีวิวจะไม่ค่อยสวยนักก็ตาม) และคราวนี้ก็ถึงเวลาที่เกมสยองขวัญระดับตำนานอย่าง Dead Space Remake จะมาขอคัมแบ็กร่วมกับเขา แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะดูถูกว่าซีรีส์เรื่องนี้มันตายไปแล้วจริงไหม? แต่เช่นเดียวกับ Walking Dead ในเกม Dead Space ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากหลุมศพอีกครั้ง แถมยังลุกขึ้นมาเป็นเจ้านายได้ พร้อมเฉือนหัวใจเกมเมอร์จนน่ากลัวเช่นกัน

Dead Space Remake คืนชีพความสยองยังไงให้สวย หล่อ เสียงใสกิ๊ง

ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่าสำหรับแฟนเกม Survival Horror ที่ซื้อเกมนี้เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศสยองขวัญสุดเข้มข้น คุณมีสิ่งนั้นตอนนี้! เกม Dead Space Remake ทำหน้าที่สร้างบรรยากาศที่น่ากลัวได้ดีมาก ความกดดันและความกลัวถูกดึงออกมาในเวลาที่เหมาะสม ในขณะที่เล่น คุณจะหัวใจเต้นแรงเกือบตลอดเวลาจาก Necromorphs ที่มักจะปรากฏตัวอยู่ข้างหลังคุณ (ขอบคุณระบบศัตรูสุ่มใหม่ที่ทำให้เกมเดาได้ยากขึ้น) ฉากที่แสงตกจนมืดทำให้คุณหวาดกลัว หรือเสียงที่ไม่รู้จักบนกำแพงที่จะกระตุ้นให้คุณหยิบปืนโดยไม่รู้ตัว? ใครที่ชอบบรรยากาศบ้านผีสิงจะต้องตื่นตาตื่นใจจนทำให้ทรีบ้านแปดบ้านฟินแน่นอน

บรรยากาศสยองขวัญนี้ถ่ายทอดผ่านภาพที่สวยงามในเกมได้อย่างชัดเจน ใช้เอ็นจิ้นกราฟิก Frostbite จากซีรีส์ Battlefield และการออกแบบที่มีรายละเอียดอย่างพิถีพิถันในทุกฉาก โมเดลตัวละครทั้งหมดและโมเดลอาวุธทุกแบบ ทางทีมพัฒนายังนำเสนอดีไซน์ใหม่อีกด้วย ได้แรงบันดาลใจจากต้นฉบับในรูปแบบที่น่าสนใจ แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะดูแตกต่างออกไป แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเป็นความทรงจำดีๆ เหมือนเดิม

ประเด็นที่ต้องยกย่องมากกว่าภาพคืองานเสียงในเกม เสียงในเกมนี้คือฮีโร่ตัวจริงในการสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวรวมถึงเสียงของเนโครมอร์ฟต่างๆที่ฟังดูน่ากลัวและน่าสะพรึงกลัวจนประสาทเสียมาก เสียงคำรามของเครื่องยนต์ของอิชิมูระช่างน่าสะพรึงกลัว และเสียงดนตรีก็น่าสยดสยองแต่น่าจดจำ เสียงเหล่านี้พร้อมจะทำให้คุณคลั่งไคล้ทุกครั้งที่ได้ยิน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเสียงน่ากลัวแบบเมื่อวานที่แฟนเก่ายังจำได้ แค่ว่ามันคมกว่ามาก นอกจากนี้เสียงของอาวุธทุกชนิด การไล่จากเลื่อยไฟฟ้าสูญญากาศของเครื่องตัดพลาสม่า หรือเสียงไฟไหม้ของปืนดับเพลิง ล้วนฟังดูอันตรายและหนักหน่วง เมื่อผสมกับเสียงเนื้อที่หลุดออกจากร่างของสัตว์ประหลาดก็ทำให้การยิงอุปกรณ์กลไกในเกมนี้สนุกมาก มันสนุกจริงๆ ชิ้นส่วนต่างๆ กระจัดกระจายโดยไม่ได้ตั้งใจ และสนุกมากกว่าเกมด้วย ไปข้างหน้าและยิงเกมอื่น ๆ ที่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้

นอกจากเสียงเอฟเฟกต์และดนตรีประกอบของเหล่าทวยเทพแล้ว ทีมพัฒนายังได้ตัดสินใจใส่เสียงของตัวละครหลักอย่างไอแซคในภาคนี้ด้วยซึ่งเราต้องยกนิ้วให้กับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก โดยคุณกันเนอร์ ไรท์ ที่เคยพากย์เสียงคุณไอแซคในภาค 2 และ 3 กลับมารับบทช่างผู้โชคดีคนนี้อีกครั้ง และมันช่วยทำให้ไอแซคในเกมดูเหมือนตัวละครสามมิติมากขึ้นอีกด้วย ไม่ใช่แค่เป็นตัวแทนของผู้เล่นเงียบๆ ใครสั่งอะไรก็ทำ ที่สำคัญตัวเกมยังมีบทสนทนาที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนเขาเป็นช่างเครื่องจริงๆ หลายครั้งที่เราจะได้เห็นเขาอวดทักษะวิศวกรรมทางภูมิศาสตร์ระหว่างสนทนากับตัวละครอื่นๆ รวมถึงมีโมเมนต์ที่น่าสะพรึงกลัวไม่ต่างจากคนทั่วไป ตัวละครหลักอื่นๆ ในเรื่องยังมีบทสนทนาและบทบาทสำคัญให้ชมอีกมากมาย โดยเฉพาะคัตซีนที่ภาค Remake เพิ่มเข้ามาอย่างไหลลื่น มันเป็นจำนวนเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นจำได้ว่าตัวละครของเราคือใคร ตัวละครตัวไหนคือตัวร้าย? และทำให้เรื่องราวของไตรภาค Dead Space ดูมีความสม่ำเสมอมากกว่าเดิม

ยาน Ishimura ลำใหม่ ขนประสบการณ์ความสยองที่ลื่นไหล

นอกจากงานภาพและเสียงแล้ว จุดแตกต่างที่ดีที่สุดคือฝีมือการออกแบบยานพาหนะของอิชิมูระในภาคใหม่ของทีมงาน Motive Studio ซึ่งทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ บนเรือเชื่อมต่อกันทั้งหมด หากไม่มีหน้าจอโหลดเกมแยกอารมณ์ เรียกได้ว่าเปลี่ยน Dead Space ให้เป็นเกม Metroidvania ได้ทันที คล้ายกับซีรีส์ Darksiders หรือ God of War (2018) ที่เราต้องวิ่งไปมาในโลกของเกมให้จบ ภารกิจ นอกจากนี้ทีมพัฒนายังได้ออกแบบฉากให้มีทางแยกหลายจุด ผู้เล่นสามารถเลือกภารกิจด้านข้างที่ต้องการทำก่อนได้ สิ่งนี้ช่วยให้เรารู้สึกว่าเรืออิชิมูระเป็นสถานที่ที่เราติดอยู่จริงๆ เปลี่ยนฉากในเกมให้กลายเป็นตัวละครที่น่าเกรงขามที่สุดในเรื่อง แม้ว่าเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของเวทย์มนตร์ก็อาจจะลดน้อยลงไปบ้างแล้วก็ตาม เพราะตัวเกมมีความยาวมากกว่า 10 ชั่วโมง และมักจะวิ่งไปมา มันทำให้เริ่มดูซ้ำซากจำเจ

การปรับอีกจุดหนึ่งคือตัวเกมยังมีห้องเล็กๆ รวมถึงมีภารกิจเพิ่มเติมให้ผู้เล่นได้ใช้ฟาร์มของตน โดยเน้นเอาใจสายโอ๊ะเอ๋ที่ชอบออกนอกเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกแบบ RPG เล็กน้อยสำหรับนักเล่นเกมที่ชอบสำรวจตรอกซอกซอยอันมืดมิด ทุกคนจะรู้เกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัว ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยานนี้ (เหมือนอ่านการ์ตูนผี 5 บาท) เท่านั้นยังไม่พอ เพราะหลังจากเล่นเกมไปหนึ่งรอบแล้วยังสามารถกลับมาฟาร์มสิ่งของได้ในโหมด New Game+ ซึ่งก็มีโบนัสลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเกมเพิ่มเข้ามา ฉากจบพิเศษ และศัตรูที่โหดกว่าเดิม มาสู้กันด้วย

บทความแนะนำ

» Miitopia

» Like a Dragon